การทำบุญครบรอบการจากไปของผู้ล่วงลับ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานในสังคมไทย โดยมีความเชื่อว่าการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะช่วยให้ผู้ล่วงลับได้รับความสุขในภพภูมิที่ดี และเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ โดยจะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระอภิธรรม และญาติพี่น้องจะร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน และฟังพระสวดมนต์ ถือเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ
“พิธีทำบุญครบรอบวันตาย” คือ
พิธีทำบุญครบรอบวันตาย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ทำบุญอัฐิ” เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมักจะจัดขึ้นในวันครบรอบวันตายของผู้ล่วงลับ หรือในวันอื่น ๆ ที่สะดวก โดยมีความเชื่อว่าการทำบุญอัฐิจะช่วยให้ผู้ล่วงลับได้รับส่วนบุญและไปสู่สุคติ
พิธีทำบุญครบรอบวันตายมักจะประกอบด้วยการถวายสังฆทาน การสวดมนต์ และการฟังเทศน์ โดยญาติพี่น้องของผู้ล่วงลับจะนำอาหารและเครื่องดื่มมาถวายพระสงฆ์ และนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ให้กับผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ ยังอาจมีการจุดธูปเทียนและวางดอกไม้ที่หน้ารูปหรือหน้าโกศของผู้ล่วงลับเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
ความหมายของพิธีทำบุญครบรอบวันตายนั้นมีความสำคัญต่อชาวพุทธเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ล่วงลับ และเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับเพื่อให้ได้รับความสุขในอีกภพภูมิต่อไป นอกจากนี้ ยังเป็นการรำลึกถึงผู้ล่วงลับให้คงอยู่ในความทรงจำของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่
วันทำบุญครบรอบวันตาย
หลัก ๆ ของการทำบุญครบรอบวันตายมี 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ทำบุญครบรอบ 7 วัน
เชื่อว่าวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับยังวงเวียนอยู่บนโลกมนุษย์ เป็นการทำบุญเพื่อสะสมผลบุญแก่ผู้ล่วงลับ
- ทำบุญครบรอบ 50 วัน
เชื่อว่าผู้ที่ล่วงลับกำลังเข้าสู่ยมโลก เป็นการทำบุญส่งผู้ที่ล่วงลับให้เดินทางไปได้ด้วยดี
- ทำบุญครบรอบ 100 วัน
เชื่อว่าผู้ที่ล่วงลับกำลังรอคอยคำพิพากษาจากยมโลก เป็นการทำบุญเพื่อขอให้ผู้ที่ล่วงลับได้เกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี
ความสำคัญของการทำบุญครบรอบวันตาย
การทำบุญครบรอบวันตายมีความสำคัญต่อทั้งผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนี้
สำหรับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
การทำบุญครบรอบวันตายจะช่วยให้ผู้ตายได้รับส่วนกุศลจากการทำบุญและอุทิศส่วนกุศลไปให้ ทำให้ผู้ตายมีความสุขในภพภูมิใหม่
สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่
การทำบุญครบรอบวันตายเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และยังเป็นการแสดงความรักความอาลัยต่อผู้ตายอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสามัคคีในกลุ่มญาติพี่น้องอีกด้วย
วิธีการทำบุญครบรอบวันตาย
การทำบุญครบรอบวันตายสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
นิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระอภิธรรมและฉันภัตตาหาร
เป็นวิธีการทำบุญครบรอบวันตายที่นิยมมากที่สุด โดยทั่วไปแล้วจะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระอภิธรรม 7 วัน หรือ 9 วัน แล้วแต่ความสะดวกของญาติพี่น้อง
ทำบุญตักบาตรและถวายสังฆทาน
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมทำบุญครบรอบวันตาย โดยจะทำในวันเดียวกับที่นิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระอภิธรรมหรืออาจทำในวันอื่นก็ได้
จัดเลี้ยงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย
เป็นวิธีการทำบุญครบรอบวันตายที่นิยมทำกันในหมู่ญาติพี่น้อง โดยจะจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย
ข้อควรปฏิบัติในการทำบุญครบรอบวันตาย
ในการทำบุญครบรอบวันตาย มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
- ควรจัดเตรียมสถานที่ให้เรียบร้อย : สถานที่ที่ใช้ในการทำบุญครบรอบวันตายควรสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
- ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย : การแต่งกายไปทำบุญครบรอบวันตายควรสุภาพเรียบร้อย ไม่ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ฉูดฉาดหรือโป๊เปลือย
- ควรมีสติและสำรวม : การทำบุญครบรอบวันตายเป็นพิธีกรรมทางศาสนา จึงควรมีสติและสำรวม ไม่ควรพูดคุยหรือหัวเราะเสียงดังรบกวนผู้อื่น
- ควรทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ : การทำบุญครบรอบวันตายควรทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ไม่ควรทำมีความโลภหรือหวังผลตอบแทนใด ๆ
ดังนั้น การทำบุญครบรอบวันตายเป็นประเพณีที่ดีงามที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อว่าเมื่อบุคคลใดเสียชีวิตไปแล้ว วิญญาณของผู้ตายจะไปอยู่ในภพภูมิอื่น และญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เพื่อให้ผู้ตายได้รับความสุขในภพภูมิใหม่ นอกจากนี้การทำบุญครบรอบวันตายยังเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีของลูกหลานที่มีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และยังเป็นการแสดงความรักความอาลัยต่อผู้ตายอีกด้วย