ความเชื่อเรื่องโลงศพ

ในวันนี้ ภัณฑโชค มีความเชื่อเกี่ยวกับโลงศพหรือที่รู้จักกันชื่อ หีบศพ ในมุมที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งความจริงแล้วความเชื่อเรื่องของโลงศพไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่สามารถสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาได้ หรือการเคาะฝาโลงศพถือเป็นการเรียกวิญญาณของคนที่ตายแล้วมากินข้าว ทุกความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งที่สืบทอดมาแต่โบราณ เรียกได้ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งความเชื่อของโลงศพมีอะไรอีกบ้างนั้น ภัณฑโชค มีคำตอบให้ทุกท่านแล้ว

 

1.เคาะโลง เพื่อเรียกวิญญาณคนตายมากินข้าว

ซึ่งความเชื่อนี้มีมานานแล้ว เรื่องการเคาะโลงนี้เป็นความเชื่อที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณ เพราะถือว่าเป็นการเคาะเรียกวิญญาณของผู้เสียชีวิตให้มาทานข้าวที่เราได้เตรียมไว้ให้ทุกคืนที่จัดงานศพ ส่วนเรื่องอาหารที่ต้องเตรียมก็ควรเป็นอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้เสียชีวิตชอบ นำใส่ถาดแล้ววางข้างหีบศพ จำนวนธูปที่จุดต้องเท่ากับจำนวนอาหารที่เตรียมไว้ทั้งหมด โดยเราเพิ่มธูปอีก 1 ดอก พร้อมบอกกล่าวเรียกผู้เสียชีวิต แล้วนำธูปปักที่กระถาง 1 ดอก ธูปส่วนที่เหลือก็ปักตามอาหารแต่ละชนิดที่เตรียมมา เสร็จแล้วถึงเคาะโลงเรียกวิญญาณผู้ตายมาทานข้าว จึงจัดว่าเสร็จขั้นตอน และด้วยเหตุนี่เองในบางครั้งผู้หลักผู้ใหญ่จึงชอบเตือนเด็กๆ ตอนกินข้าวว่า “อย่าเคาะจานข้าว”

ในอีกมุมหนึ่งขั้นตอนนี้เป็นการบอกกล่าวกับคนเป็นอีกด้วยว่า “เมื่อยังมีชีวิตก็จงมีสติอยู่กับตัวอยู่เสมอ ดำเนินชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท เพราะหากตายไปแล้วต่อให้เคาะฝาโลงจนแตกก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก”

  1. นอนโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง

ความเชื่อเรื่องการต่อชะตา หรือเป็น “การแก้กรรม” เป็นการที่ให้เรานอนในโลงศพ โดยจะหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก แล้วให้พระภิกษุสงฆ์ทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตาย พร้อมให้ศีล ให้พร เมื่อทำพิธีเสร็จทางวัดก็นำโลงศพใบนั้นไปทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เพื่อให้สิ่งชั่วร้าย และสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ให้ไหม้ไปพร้อมกับไฟ จากนั้นเปลี่ยนโลงศพใบใหม่มาใช้ทำพิธีให้ญาติโยมตลอดปี วิธีนี้จะได้รับความนิยมกันมากในทางแถบภาคเหนือ ส่วนในภาคกลาง นิยมสะเดาะเคราะห์ด้วยการนอนโลงศพ โดยมีคติความเชื่อว่า การให้พระเถระสวดนพเคราะห์ เสริมดวงชะตา เปรียบเสมือน “ตายแล้วเกิดใหม่” เมื่อผ่านพิธีการนอนโลงศพแล้ว จะมีสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เสริมมงคลชีวิตให้มีโชคมีลาภเพิ่มขึ้น ใครที่คิดร้ายก็ขอให้กลายเป็นมิตรที่ดีต่อกัน

ความจริงแล้วการจัดพิธีนอนโลงนั้น ไม่ใช่เพียงเพื่อการสะเดาะเคราะห์ คลายทุกข์ใจอย่างเดียว แต่ยังเป็นการให้ทุกคนเห็นถึงความจริงอันเป็นสัจธรรมว่า ความตายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งการทำพิธีนี้เปรียบเสมือนจำลองการตายก่อนที่เราจะตายจริงเช่นกัน

3.โลงศพทุกใบล้วนมีเจ้าของอยู่แล้ว

เรื่องนี่เป็นความเชื่อของคนที่ขายโลงศพ เพราะพวงเค้าจะถือว่าโลงศพทุกใบล้วนมีเจ้าของอยู่แล้ว จึงเป็นที่มาของการห้ามภายในร้ายขายโลงศพมีน้ำ หรือความชื้นอยู่ในร้าน ด้วยโลงศพนั้นทำขึ้นมาจากไม้ และเมื่อใดที่ได้ยินเสียงโลงศพดังหรือลั่น ในวันรุ่งขึ้นก็จะต้องมีคนมาซื้อโลงศพนั้นไป และอีกความเชื่อหนึ่งก็คือ เมื่อใดที่มีผีเสื้อกลางคืนมาเกาะบนโลงศพ นั้นแปลว่าอีกไม่กี่วันจะมีคนมาซื้อโลงศพใบนั้นออกไป เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล โดยเฉพาะในหมู่คนขายโลงศพ หรือที่ทำงานอยู่กับโลงศพทุกวัน จะเชื่อกันมากว่า โลงศพทุกใบล้วนมีเจ้าของ

4.แมวดำจะกระโดข้ามโลงโลงศพไม่ได้เด็ดขาด

ในสมัยโบราณเมื่อมีงานศพ สิ่งที่ผู้คนในยุคนั้นต้องเฝ้าระวังอีกอย่างหนึ่ง คือ อย่าให้แมวดำข้ามโลงศพ หรือหีบศพเด็ดขาด เพราะจะทำให้คนที่ตายไปแล้ว ฟื้นขึ้นมาเป็นวิญญาณร้าย กลับมาทำร้ายทำร้ายผู้คนได้ อีกความเชื่อหนึ่งคือ เมื่อแมวดำข้ามศพแล้ว จะทำให้วิญญาณของผู้ตายจะไม่ได้ไปผุดไปเกิด กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน จะวนเวียนอยู่แถวนั้น ดังนั้นในสมัยก่อนบางครั้งถึงกับต้องคอยระวังแมวดำไม่ให้อยู่ใกล้งานศพเลยก็มี

 

ทุกความเชื่อทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ หรือเป็นสิ่งที่คนรุ่นเก่านิยมเตือนคนรุ่นใหม่เป็นประจำ ดังนั้นจึงมีหลายท่านที่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับงานศพกันมาบ้างแล้ว อย่างการทำบุญโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา เสริมดวงชีวิต ทุกเรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นความเชื่อส่วนบุคคล